iOS 26 อัปเดตแล้วต้องทำอะไรบ้าง? 10 การตั้งค่าที่ช่วยปลดล็อกฟีเจอร์ใหม่

อัปเดตกันแล้ว ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งดีไซน์ที่สวยงามขึ้น และฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามามากมาย แต่ด้วยความใหม่แบบนี้อาจจะต้องทำให้หลายคนตั้งค่าใหม่ วันนี้เรามาดูกันกับ 10 จุดที่ต้องตั้งค่าให้ iPhone ใหม่เป็นตัวของคุณเอง

10 การตั้งค่าที่ช่วยปลดล็อกฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 26

1. ปรับแต่งหน้าจอล็อก (Lock Screen) ดีไซน์ใหม่หมดจด 

สัมผัสแรกหลังอัปเดตคือดีไซน์ "Liquid Glass" บนหน้าจอล็อกที่สวยงามจับใจ ลองปลดล็อก iPhone แล้วแตะค้างที่หน้าจอเพื่อเข้าสู่โหมดปรับแต่ง แล้วคุณจะพบกับลูกเล่นใหม่ๆ เพียบ

• เอฟเฟกต์ Liquid Glass: เลือกฟอนต์และสีของนาฬิกา จากนั้นเลือกออปชัน "Glass" เพื่อให้ตัวเลขดูโปร่งใสเหมือนแก้ว
• ปรับขนาดนาฬิกา: ลากที่มุมขวาล่างของนาฬิกาเพื่อปรับขนาดได้ตามใจชอบ
• วอลเปเปอร์ 3 มิติ (Spatial Scene): ลองเลือกภาพ 2D ธรรมดา แล้วปล่อยให้ AI สร้างเป็นวอลเปเปอร์ 3 มิติ ที่ตัวแบบจะแยกออกจากพื้นหลัง เมื่อเอียงเครื่องจะเห็นการเคลื่อนไหวเล็กน้อย เพิ่มมิติให้หน้าจอ
• ย้ายวิดเจ็ตได้อิสระ: วิดเจ็ตไม่ได้ถูกจำกัดให้อยู่ใต้แค่นาฬิกาอีกต่อไป สามารถย้ายไปไว้ที่ด้านล่างของจอได้แล้ว

2. จัดระเบียบหน้าจอโฮม (Home Screen) ให้เป็นสไตล์คุณ

ความสนุกในการปรับแต่งยังตามมาถึงหน้าจอโฮม แตะค้างที่หน้าจอ > เลือก Edit > Customize เพื่อเริ่มตั้งค่า

• ไอคอนโปร่งใส (Clear): ทำให้ไอคอนทั้งหมดกลายเป็นแบบโปร่งแสง มองทะลุเห็นวอลเปเปอร์ด้านหลังได้ มีให้เลือกทั้ง Light และ Dark Mode
• ไอคอนสีเดียว (Tinted): หากไม่ชอบแบบโปร่งใสทั้งหมด ลองใช้โหมดนี้ที่ย้อมสีไอคอนทั้งหมดให้เป็นโทนเดียวกันแต่ยังคงความโปร่งแสงเล็กน้อย
• จับคู่สีไอคอนกับตัวเครื่อง: Apple เพิ่มปุ่มลัดให้คุณสามารถเลือกย้อมสีไอคอนให้เข้ากับสีของ iPhone หรือเคส Apple ที่ใช้อยู่ได้ทันที

3. ลองใช้ Visual Intelligence กับภาพ Screenshot

ฟีเจอร์อัจฉริยะอย่าง Visual Intelligence ที่เคยใช้ได้แค่ในแอปกล้อง ตอนนี้สามารถใช้งานกับภาพ Screenshot ได้แล้ว เพียงแค่แคปหน้าจอ (กดปุ่มเพิ่มเสียง + ปุ่มด้านข้าง) แล้วแตะที่ไอคอน Visual Intelligence เพื่อค้นหาสิ่งที่อยู่ในภาพ, ค้นหาสินค้า หรือถามข้อมูลเพิ่มเติมจาก ChatGPT ได้ทันที (ฟีเจอร์นี้ต้องการ iPhone รุ่นที่รองรับ Apple Intelligence)

4. เปิดใช้งาน Call Screening คัดกรองสายที่ไม่รู้จัก

เบื่อไหมกับเบอร์แปลกๆ ที่โทรเข้ามา? ฟีเจอร์ Call Screening จะช่วยคุณได้ โดยเมื่อเปิดใช้งาน iPhone จะถามชื่อและเหตุผลที่โทรมาแทนคุณ แล้วแสดงข้อมูลนั้นบนหน้าจอเพื่อให้คุณตัดสินใจว่าจะรับสายหรือไม่ สามารถเปิดใช้งานได้ที่ Settings > Phone

5. เปลี่ยนพื้นหลังในแอป Messages

เพิ่มสีสันให้กับการแชท! ใน iOS 26 คุณสามารถตั้งค่าพื้นหลังที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละแชทได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแชทเดี่ยวหรือแชทกลุ่ม เพียงแตะที่ชื่อของคู่สนทนา > เลือก "Backgrounds" คุณสามารถเลือกภาพที่ Apple เตรียมไว้ให้, เลือกสี, ใช้ภาพถ่ายของคุณเอง หรือแม้กระทั่งสร้างภาพใหม่ด้วย Image Playground ก็ได้เช่นกัน ข้อควรระวัง: พื้นหลังที่คุณตั้งจะเปลี่ยนให้ทุกคนในแชทเห็นเหมือนกัน

6. เปิด Live Translation แปลภาษาสดๆ

คุยกับเพื่อนต่างชาติได้ง่ายขึ้นเยอะ! ฟีเจอร์ Live Translation ใน Messages จะแปลข้อความที่ส่งเข้ามาเป็นภาษาของคุณ และแปลข้อความของคุณกลับไปเป็นภาษาของอีกฝ่ายโดยอัตโนมัติ เปิดใช้งานได้โดยแตะที่ชื่อคู่สนทนาแล้วเปิด "Automatically Translate"

ฟีเจอร์นี้ยังใช้ได้กับ FaceTime (แสดงเป็นซับไตเติล) และแอป Phone (แปลเสียงพูด) อีกด้วย และหากใช้ร่วมกับ AirPods Pro 2, AirPods Pro 3 หรือ AirPods 4 จะสามารถใช้แปลบทสนทนาต่อหน้าได้เลย (ต้องการ iPhone รุ่นที่รองรับ Apple Intelligence)

7. สร้าง Genmoji อีโมจิสายพันธุ์ใหม่

เบื่ออีโมจิเดิมๆ หรือยัง? ลองสร้าง Genmoji ด้วยการผสมอีโมจิ 2 ตัวขึ้นไปเข้าด้วยกัน เพียงเข้าไปที่แป้นพิมพ์อีโมจิ > เลือก Genmoji แล้วเลือกอีโมจิที่คุณต้องการมาผสมกัน หรือจะพิมพ์คำอธิบายเพื่อสร้างอีโมจิใหม่ก็ได้เช่นกัน (ต้องการ iPhone รุ่นที่รองรับ Apple Intelligence)

8. สำรวจแอป Games ศูนย์รวมเกมเมอร์

iOS 26 มาพร้อมแอปใหม่แกะกล่องชื่อว่า "Games" ซึ่งจะรวบรวมเกมทั้งหมดของคุณจาก App Store และ Apple Arcade มาไว้ในที่เดียว พร้อมเพิ่มฟีเจอร์สำหรับเล่นกับเพื่อนและท้าทายคะแนนกันได้ง่ายขึ้น

9. ปรับแต่งเสียงเรียกเข้าและเวลางีบ (Snooze) ของนาฬิกาปลุก

Apple ได้เพิ่มเสียงเรียกเข้า "Reflections" เวอร์ชันใหม่ๆ และเสียง "Little Bird" เข้ามาให้เลือกใช้ ลองเข้าไปฟังได้ที่ Settings > Sound and Haptics > Ringtone

ที่สำคัญคือ คุณสามารถปรับระยะเวลาการ Snooze ของนาฬิกาปลุกได้แล้ว! จากเดิมที่ถูกบังคับไว้ที่ 9 นาที ตอนนี้สามารถเลือกได้ตั้งแต่ 1 นาที ถึง 15 นาที เข้าไปตั้งค่าได้ที่แอป Clock > Alarms > เลือกนาฬิกาปลุกที่ต้องการ > Snooze Duration

10. เลือกรูปแบบ Tab Bar ของ Safari ที่คุ้นเคย

ใน Safari เวอร์ชันใหม่ Apple ได้เพิ่มมุมมอง "Compact" ที่ซ่อนการตั้งค่าบางอย่างไป หากคุณไม่ชอบและอยากได้ Tab Bar แบบเดิมที่อยู่ด้านบนหรือล่างเหมือนเคย ก็สามารถเข้าไปเปลี่ยนกลับได้ที่ Settings > Safari

หมายเหตุ : Apple Intelligence ในประเทศไทยยังไม่สามารถใช้งานได้ 

เห็นแบบนี้แล้วคงต้องบอกว่าลูกเล่นเยอะมากๆ เลยครับ เห็นแบบนี้แล้วใครที่อยากทดลองอะไรใหม่นี่เป็นอีกทางเลือกที่ดีเช่นเดียวกันสำหรับสาวกอย่าลืมดาวน์โหลดวันนี้