หลังคาของรถเป็น Dual Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่ เป็นตัวช่วยให้ห้องโดยสารมีความโล่ง โป่รง สบาย และดูกว้างขึ้น มาพร้อมกับ Ambient light ไฟตกแต่งรถที่เปลี่ยนได้มากถึง 64 เฉดสี เลือกปรับได้ตามที่ใจต้องการ
ตัวระบบปรับอากาศจะเป็นแบบ Dual Zone ทั้งด้านหน้าและหลัง ตัวรถมีทั้งหมด 7 ที่นั่ง เบาะคนขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทางและเบาะผู้โดยสารได้ 4 ทิศทาง
นอกจากนี้ เบาะนั่งแถวที่ 2 ยังออกแบบเป็น VIP Captain Seat ให้อารมณ์เหมือนนั่งเครื่องบินแบบ First Class ซึ่งมีทั้งระบบนวด, ปรับอุณหภูมิ มีโต๊ะพับเก็บได้ พร้อมจอกลางขนาด 12.3 นิ้วที่สามารถเชื่อมต่อ Apple CarPlay และมือถือ Android ได้ มาด้วยกันกับลำโพงรอบรถ 12 จุด
ทางด้านสมรรถนะและประสิทธิภาพบอกเลยก็เทพไม่แพ้ดีไซน์ MG MAXUS 9 ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจุ 90kWh วิ่งไกลสุด 540 กม./การชาร์จ 1 ครั้งตามมาตรฐาน NEDC รองรับชาร์จไว 120kWh
ผู้ใช้งานสามารถชาร์จไฟจาก 30% ไปถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที ส่วนการชาร์จธรรมดา ชาร์จไฟจาก 5% – 100% ใช้เวลา 8 ชั่วโมง 30 นาที
ขับขี่ปลอดภัยหายห่วง เนื่องจากตัวรถมีระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ Full Space Frame คือมีถุงลมนิรภัยอยู่รอบคันตามมาตรฐานสูงสุด ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM พร้อมระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ (ADAS) มากถึง 25 ระบบ อีกทั้งยังได้รับมาตรฐาน 5 ดาวจาก EURO NCAP และ AUSTRALIAN NCAP ด้วย
NEW MG MAXUS 9 รุ่นที่วางจำหน่ายในไทย ได้แก่
พิเศษ! สำหรับผู้ที่ซื้อ MG รุ่นที่เปิดตัวดังกล่าวจะได้รับสิทธิพิเศษจากแคมเปญมูลค่ารวมกว่า 120,000 บาท ดังนี้