ในตอนนี้ ได้มีการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คนปัจจุบันของประเทศไทย ใน รัฐบาลเศรษฐา 1 หรือคณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 63 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผู้ที่ได้มารับตำแหน่งนี้ก็คือ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง วันนี้เราจะพามาดูผลงานและทำความรู้จักผู้ที่จะดูแลสื่อโซเชียลคนใหม่ของไทยเรากัน
หลังจากที่มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ผู้นำรัฐบาลอย่างเป็นทางการของประเทศไทย และในกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับสื่อไอทีหรือเทคโนโลยีที่เราใช้กันอยู่ ก็คือกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ DES นี่แหละ
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 3 ของพรรคเพื่อไทย
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2503 อายุ 63 ปี เป็นคนจังหวัดนครราชสีมา จบการศึกษาระดับปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาโท มหาบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
นายประเสริฐ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทย แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 3 โดยภายในพรรคมีตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรค
นโยบายที่เกี่ยวข้องกับเนื้องานด้านกระทรวงดิจิทัลตามที่ทางพรรคเพื่อไทยได้ระบุไว้ ก็คือนโยบายรัฐบาลดิจิทัลเพื่อประชาชนนี่แหละ โดยมีเนื้อหาดังนี้
ทางเว็บไซต์เพื่อไทยได้กล่าวถึงนโยบายนี้ว่า Blockchain จะเป็นโครงข่ายสำคัญที่จะทำให้ Fintech เทคโนโลยีทางการเงินเติบโต และจะทำให้คนไทยสามารถระดมทุนจากทั่วโลกได้ โดยเฉพาะ SME หรือ Startup ทั้งหลาย
รวมทั้งการระดมทุนให้กับเกษตรกร และการขายสินค้าล่วงหน้า เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถทางศิลปะและการออกแบบ ได้ขายผลงานในตลาดโลกได้ง่ายขึ้น แล้วประเทศไทยจะกลายเป็น Blockchain Hub และ Fintech Center ของภูมิภาคอาเซียน
โดยตัว Blockchain นี้ ก็จะไปเกี่ยวข้องกับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท หนึ่งในนโยบายที่หลายคนสนใจ และเป็นนโยบายที่ชูจุดเด่นด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ทางเว็บไซต์เพื่อไทยได้กล่าวถึงนโยบายนี้ว่า พรรคเพื่อไทยตระหนักถึงภัยอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งคือทุกข์ของประชาชนสร้างความเสียหาย ด้วยการหลอกลวง ขโมยเงินจากบัญชีธนาคาร
พรรคเพื่อไทยจะปกป้องประชาชน ด้วยการใส่ใจ จัดการอย่างเฉียบขาด ทันการ ทันที เท่าทันโลก ทันเทคโนโลยี โดยการวางระบบป้องกันภัยไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ ธนาคารส่งข้อมูลกรณีกลโกงอาชญากรไซเบอร์ให้ทันการณ์
อาชญากรรมจากเทคโนโลยีจะต้องใช้เทคโนโลยีที่เท่าทันเข้าสู้ เพื่อไทยจะแก้ปัญหาภัยไซเบอร์ ไม่ปล่อยอาชญากรรมไซเบอร์ลอยนวล และขยายตัวออกไปสร้างความเสียหายต่อประชาชนซ้ำซากรายวัน สูญเสียทั้งทรัพย์สิน และชีวิตอีกต่อไป