ROG Ally X เครื่องเกมตัวปัง ที่รอบนี้ได้อัปเดตสเปคใหม่หลาย ๆ ด้าน ทั้งปรับเพิ่มแบตเตอรี่ให้มาเยอะขึ้นถึง 1 เท่าตัว ใช้งานได้นานขึ้นเป็น 3 ชั่วโมง ปรับตำแหน่งช่องใส่ microSD Card ใหม่ มีการอัปเกรดให้ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น และทนทานกว่าเดิม เปลี่ยนพัดลมระบายอากาศใหม่มาในขนาดเล็กลง เพิ่มการไหลเวียนของอากาศได้ดีขึ้น 10% เปิดตัวมาในประเทศไทยในราคาไม่ถึง 3 หมื่นบาท
ASUS ROG Ally X มาในดีไซน์คล้ายเดิมแต่จะหนักขึ้นประมาณ 68 กรัม โดยมีการเปลี่ยนตรง Grip ที่จับให้มีความโค้งมนรับกับมือมากขึ้น และมีความลึกลงจากเดิมทำให้จับถือสะดวก และมั่นคงมากขึ้น พร้อมปรับตำแหน่งปุ่มต่าง ๆ และจอยสติ๊กให้เลื่อนเปลี่ยนตำแหน่งกดปุ่มในระหว่างเล่นเกมให้ง่ายขึ้น
อีกทั้งตัวจอยสติ๊กยังมีการอัปเกรดให้ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น และทนทานกว่าเดิม ส่วนปุ่ม D-Pad ก็มีการออกแบบใหม่ลดความหนืด กวาดนิ้วเป็นวงกลมเพื่อควบคุมได้ดีกว่ารุ่นก่อน ส่วนปุ่มด้านหลังก็มีการปรับขนาดให้เล็กลงเพื่อป้องกันนิ้วลั่นไปโดนปุ่ม และเปลี่ยนบอดี้เป็นสีดำสุดเท่เพื่อสร้างความแตกต่างจากรุ่นก่อนด้วย
มีการเปลี่ยนพัดลมระบายอากาศใหม่ให้เล็กลง สามารถเพิ่มการไหลเวียนของอากาศได้ดีขึ้น 10% และมีการปรับตำแหน่งช่องใส่ microSD Card มาไว้ข้าง ๆ ปุ่ม Power ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องความร้อนสูงจนเมมโมรีการ์ดเสีย เพราะในรุ่นก่อนตำแหน่งอยู่ใกล้ช่องระบายความร้อนมากเกินไป
มีการอัปเกรดแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นจากเดิม 40Wh เป็น 80Wh คาดว่าจะใช้ได้นานกว่าเดิม ขึ้นเป็น 2 เท่าจากรุ่นก่อน ทำให้สามารถเล่นเกมได้สูงสุด 2.7 ชั่วโมง หรือดูสตรีมมิ่งได้ 14.5 ชั่วโมง พร้อมอัปเกรด LPDDR5 7500MHz 24GB ทำให้สามารถแบ่ง RAM ไปใช้กับ GPU ได้โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะไปแย่งการทำงานของระบบ OS และเกมที่เราเล่น ตลอดจนได้เพิ่มความจุ SSD เป็น 1TB พร้อมเปลี่ยนอินเตอร์เฟสเป็น M.2 2280 ที่หาซื้อได้ง่ายกว่า และอัปเกรดได้ง่ายขึ้น
ได้มีการยังเปลี่ยนอินเตอร์เฟสการเชื่อมต่อจากเดิม คือ USB-C + ROG XG Mobile สำหรับเชื่อมต่อ e-GPU แต่รอบนี้เปลี่ยนมาใช้อินเตอร์เฟสแบบ Dual USB-C แยกเป็น 2 พอร์ตระหว่าง USB-C 3.2 Gen 2 และ Thunderbolt 4 ชิป Ryzen Z1 Extreme ใช้จอแสดงผล IPS LCD 1080P ขนาด 7 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz ลำโพงตัวเดิม เทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายเหมือนเดิม
ROG Ally X เปิดตัวในไทยราคาอยู่ที่ 29,990 บาท พร้อมวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ