Amazon ได้ประกาศเปิดตัว Kindle รุ่นใหม่ทั้งหมด 4 รุ่น ประกอบด้วย Kindle Colorsoft หน้าจอสีรุ่นแรกของแบรนด์, Kindle Scribe รุ่นใหม่ เน้นขีดเขียน จดบันทึกสะดวก, Kindle Paperwhite ที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา และ Kindle พื้นฐานรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมการอัปเกรด และสีใหม่ Matcha สีเขียวเหนี่ยวทรัพย์ โดยแต่ละรุ่นมีรายละเอียดดังนี้เลยครับ
Kindle Colorsoft รุ่นใหม่นี้จะมอบประสบการณ์การอ่านสไตล์ Kindle แบบใหม่ ด้วยสีสันที่สดใส ในขณะที่ฟีเจอร์หลักๆ ยังอยู่ครบ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงคอนทราสต์ระดับสูง พลิกหน้าได้อย่างรวดเร็ว ไฟด้านหน้าปรับอัตโนมัติ และอายุแบตเตอรี่นานหลายสัปดาห์ โดยแม้ว่าจะเป็นจอแสดงผลแบบสี แต่ก็จะไม่ทำร้ายดวงตา ช่วยให้การเลือกหนังสืออ่านสามารถเห็นสีสันอย่างสวยงาม และสามารถใส่ไฮไลต์สี เพื่อให้การค้นหาจุดที่ไฮไลต์ไว้ทำได้อย่างง่ายดาย
Kindle Colorsoft ถูกออกแบบให้มีสีสันคล้ายกระดาษ โดยใช้แบ็คเพลนออกไซด์ที่มีรูปแบบคลื่น เพื่อประสิทธิภาพที่รวดเร็วและความคมชัดที่สูงขึ้น สำหรับเนื้อหาทั้งสีและขาวดำ จอแสดงผล Colorsoft ใช้ light-guide ใหม่พร้อม LED ไนไตรด์ทำงานร่วมกับอัลกอริทึมของ Amazon จะเพิ่มสีสันและความสว่างได้โดยไม่ทำให้รายละเอียดจางลง รวมถึงสามารถซูมภาพได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องพิกเซล และสามารถเลือกสไตล์สีได้ 2 แบบคือ มาตรฐาน หรือสีสันสดใสได้ Colorsoft ยังมาพร้อมกับการชาร์จแบบไร้สาย มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 8 สัปดาห์ และกันน้ำ ดังนั้น จึงสามารถพกพาไปอ่านในอ่างอาบน้ำ หรือไปเที่ยวทะเลก็พกไปนอนอ่านบนชายหาดได้สบายๆ
Kindle Colorsoft เปิดตัวที่ราคา $279.99 (ประมาณ 9,300 บาท) ซึ่งเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ว และจะจัดส่งในวันที่ 30 ตุลาคม
ต่อไป Kindle Scribe รุ่นใหม่นี้ จะเน้นการจดบันทึกหรือขีดๆ เขียนๆ ครับ โดยจะยังคงมาพร้อมข้อดีทั้งหมดของ Kindle เช่นเคย มีหน้าจอมีขอบสีขาวแบบใหม่ และพื้นผิวเรียบลื่นเหมือนกระดาษ ทำให้ดูและให้ความรู้สึกคล้ายกำลังเขียนบนแผ่นกระดาษจริงๆ นอกจากนี้ หน้าจอยังให้ความละเอียดระดับ 300 ppi ช่วยให้ข้อความดูคมชัดเมื่อคุณเขียนหรืออ่าน รวมถึงสไตลัส Premium Pen (จำหน่ายแยกต่างหาก) ก็มียางลบหัวนิ่มที่ให้ความรู้สึกเหมือนใช้ยางลบบนดินสอจริงๆ
นอกจากนี้ Scribe ยังมีซอฟต์แวร์ฟีเจอร์ใหม่ๆ หลายอย่าง เช่น Active Canvas ที่ช่วยให้เราจดบันทึกได้โดยตรงลงในหนังสือที่กำลังอ่าน จากนั้น text ในหนังสือจะขยับเว้นที่ว่างสำหรับโน้ตของเรา รวมถึงปรับขนาดและตำแหน่งของโน้ตได้ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์อย่าง Refined Writing ที่ใช้สำหรับเปลี่ยนโน้ตให้เป็นตัวอักษร script font เพื่อให้อ่านง่ายและดูดี และ Summarization ที่ช่วยสรุปอย่างรวดเร็ว และแชร์ได้ง่ายขึ้น
New Kindle Scribe เปิดราคา $399.99 (ประมาณ 13,265.67 บาท) และมีกำหนดจัดส่งในวันที่ 4 ธันวาคม โดยเปิดให้พรีออเดอร์แล้วเช่นกัน
Kindle รุ่นพื้นฐานก็ได้รับการอัปเดตเช่นกันครับ แต่ถือว่าอัปเดตน้อยที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ทั้งหมดเหล่านี้ โดยรุ่นนี้ยังคงเป็นรุ่นที่เล็กที่สุดและราคาถูกที่สุด ซึ่งหลักๆ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าที่เปิดตัวในปี 2022 รุ่นใหม่จะมีหน้าจอความละเอียดสูงกว่า (300 PPI vs 167 PPI) เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลเป็นสองเท่า (จาก 8GB เป็น 16GB) และใช้พอร์ต USB-C แล้ว
นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ เช่น พลิกหน้าได้เร็วขึ้น คอนทราสต์สูงขึ้น ช่วยให้ข้อความดูคมชัดและชัดเจนยิ่งขึ้น และแสงด้านหน้าที่สว่างขึ้น 25% แต่รุ่นนี้ยังคงไม่มีแสงปรับอัตโนมัติหรือแสงโทนอุ่นแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังเพิ่มสีเขียว Matcha อีกด้วย
Kindle รุ่นพื้นฐานตัวใหม่นี้ เปิดราคาที่ $109.99 เพิ่มขึ้น 10 เหรียญจากรุ่นก่อนหน้า (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,600 บาท) และวางจำหน่ายแล้ววันนี้
นอกจากนี้ ยังเปิดตัว Kindle Kids รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมคุณสมบัติเหมือนรุ่นมาตรฐาน แต่เพิ่มเคสที่เป็นมิตรต่อเด็ก หรือเรียกง่ายๆ ว่าไม่พังง่ายในมือเด็กๆ รวมถึงให้สมาชิก Amazon Kids+ หนึ่งปี (คลังคอนเท้นต์ดีๆ สำหรับเด็ก) มีระบบ parental controls และการรับประกันสองปี
Amazon บอกว่า Kindle Paperwhite เป็น Kindle ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ดังนั้น จึงระมัดระวังที่จะไม่ทำการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย และปรับปรุงคุณสมบัติที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น ทำให้รุ่น Paperwhite นี้เป็นรุ่นที่บางที่สุด เร็วที่สุด และคมชัดที่สุดเท่าที่เคยมีมา
Paperwhite สามารถพลิกหน้าได้เร็วขึ้น 25% หน้าจอมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย โดยดีไหได้เพิ่มขนาดหน้าจอจาก 6.8 นิ้ว เป็น 7 นิ้วโดยไม่เปลี่ยนขนาดของแท็บเล็ตอย่างมากเพราะมีขอบจอที่บางลงรอบหน้าจอ รวมถึงการใช้ oxide thin-film transistor ซึ่ง Amazon กล่าวว่าทำให้มีคอนทราสต์สูงสุดในบรรดา Kindle ทั้งหมด ช่วยให้การแสดงข้อความและรูปภาพคมชัดยิ่งขึ้น มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นจาก 2 เดือนเป็น 3 เดือนต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง มีบอดี้กันน้ำและมีพื้นที่เก็บข้อมูล 16GB
นอกจากนี้ ยังมี Kindle Paperwhite Signature Edition ที่มีคุณสมบัติเหมือนกันกับ Paperwhite รุ่นมาตรฐานทุกประการ แต่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น ไฟหน้าจอที่ปรับอัตโนมัติ รองรับการชาร์จแบบไร้สาย และเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลเป็น 32GB โดยทั้งสองรุ่นมีสีใหม่ ได้แก่ Metallic Raspberry, Metallic Jade และ Metallic Black
Kindle Paperwhite และ Paperwhite Signature Edition วางจำหน่ายแล้วในราคา $159.99 และ $199.99 ตามลำดับ และพร้อมจัดส่งทันที (ประมาณ 5,300 และ 6,600 บาทตามลำดับ)
Amazon ยังประกาศเปิดตัว Kindle Paperwhite Kids รุ่นใหม่ All-New ซึ่งมาพร้อมคุณสมบัติเหมือนกันกับ Paperwhite รุ่นมาตรฐานทุกประการ แต่มาพร้อมเคสสำหรับเด็ก, สมาชิก Amazon Kids+ 1 ปี ระบบ parental controls และการรับประกัน 2 ปี